วิธีการจักตอก
1. การจักตอกปื้น แบ่งไม้ไผ่ออกเป็นชิ้นๆตามขนาดที่ต้องการ ใช้มีดจักตอกเอาส่วนในออก (ขี้ตอก)จักในส่วนที่เหลือออกเป็นเส้นบางๆ แล้วหลาวให้เรียบร้อยตากแดดให้แห้ง
2. การจักตอกตะแคง ใช้วิธีเดียวกันกับการจักตอกปื้นเบื้องต้น แต่การจักให้เป็นเส้นตอกจะทำการจักทางผิวเป็นเส้นเล็กกว่าตอกปื้น ทำการหลาวให้เรียบร้อย แล้วนำออกตากแดด
3. การจักไพล ใช้วิธีเดียวกับการจักตอกตะแคง แต่การหลาวจะหลาวให้เป็นเส้นกลมแบบเท่ากัน ทำการหลาวให้เรียบร้อย แล้วนำออกตากแดด
การสาน
การสาน เป็นขั้นตอนที่ยาก และต้องใช้ความละเอียดมากที่สุด เริ่มจากการก่อฐานด้านล่างด้วยเส้นตอกสองชนิด คือ ตอกยืน (ตอก-ตั้ง) ซึ่งจะมีลักษณะคอดตรงกลางต่างจากตอกทั่ว ๆ ไป และตอกนอน (ตอกสาน) ที่มีขนาดกว้างเท่ากันเท่ากันทั้งเส้นตากปกติ เหตุที่ตอกยืนมีลักษณะพิเศษ เนื่องมาจากเมื่อสานเสร็จจะได้ตะกร้าที่มีฐานเล็ก และค่อย ๆ บานขึ้นบริเวณปาก
การรมควัน
เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการสานเพื่อเพิ่มความแข็งแรง สวยงาม แก่เครื่องจักสานด้วยหวาย ในส่วนที่ต้องการเสริมเป็นพิเศษได้แก่ ปาก ขา หู การผูกและพันด้วยหวาย จะเสริมให้เครื่องจักสานเกิดความสวยงาม
การถักและพัน
เมื่อสานตัวเรียบร้อยก็ถึงการรมควันโดยจะทำในวันที่ไม่มีลม ใช้ฟางพรมน้ำหมาด ๆ เป็นเชื้อเพลิงเพื่อให้เกิดควันมาก รมจนเครื่องจักสานมีสีเหลืองเท่ากันทั้งใบ แล้วนำมาเข้าส่วนประกอบหวาย มีการผูกปาก พันขา ใส่ฐานและหูหิ้ว
การผูกพันด้วยหวาย 9เส้น
ลายเครื่องจักสาน
ผลการศึกษาพบว่า กระบวนการถ่ายทอดความรู้หัตถกรรมเครื่องจักสานชุมชนบางเจ้าฉ่า ตำบลบางเจ้าฉ่า อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง ประกอบด้วย
1. เนื้อหาที่ถ่ายทอด พบว่าไม่มีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร แต่ผู้เรียนได้เรียนรู้เนื้อหาตามลำดับขั้นตอนการปฏิบัติที่ผู้ถ่ายทอดความรู้หัตถกรรมเครื่องจักสานได้บอกก่อนที่จะสอนให้ลงมือปฏิบัติ และมีการบูรณการเนื้อหาหลายในการถ่ายทอดเข้าด้วยกันเรื่องเข้าด้วยกัน
2. วิธีการถ่ายทอดเน้นการถ่ายทอดเป็นรายบุคคลหรือตัวต่อตัว และเป็น
การสอน สาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างควบคู่กับการบอกเล่า และมีการซักถามได้เมื่อไม้ข้าใจ
3. สื่อที่ใช้ในการถ่ายทอด แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
3.1 สื่อที่เป็นตัวบุคคลคือตัวผู้ถ่ายทอดหัตถกรรมเครื่องจักสานที่
เป็นเครือญาติ เพื่อนบ้าน หรือสถานประกอบการ
3.2 สื่อที่เป็นของจริง คือ สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ ซึ่งเป็น
3.3 สิ่งที่ผู้ถ่ายทอดหัตถกรรมเครื่องจักสานใช้ปฏิบัติงานเป็นปกติ
ประจำวัน รวมถึงชิ้นงานเสร็จ
ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้
1. ผลการวิจัยพบว่า กระบวนการถ่ายทอดความรู้หัตถกรรมเครื่องจักสาน ด้านเนื้อหาการถ่ายทอดยังไม่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ใช้การถ่ายทอดโดยการบอกเล่า และเน้นการปฏิบัติตาม ซึ่งจะพบว่าถ้าผู้ถ่ายทอดเสียชีวิต และไม่มีการสืบต่อของความรู้นั้น ความรู้ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นก็เกิดการสูญหายไป ดังนั้นควรมีการเก็บภูมิปัญญาท้องถิ่นไว้ในรูปความรู้ที่ชัดแจ้ง (Explicit knowledge) โดยให้ชาวบ้านเกิดความตระหนักในการเก็บบันทึก หรือให้ส่วนภาคราชการ หรือองค์กรทางการศึกษาช่วยในการจัดเก็บบันทึก ซึ่งจะทำให้เกิดการดำรงไว้ซึ่งภูมิปัญญาท้องถิ่นมีอยู่อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
2. ผลการวิจัยพบว่าวิธีการถ่ายทอดหัตถกรรมเครื่องจักสานจะเน้นการถ่ายทอดเป็นรายบุคคล และเป็นการสอนปฏิบัติ เนื้อหาไม่ชัดเจนใช้ประสบการณ์ของผู้สอน ดังนั้นผู้ฝึกการทำหัตถกรรมเครื่องจักสานจึงต้องหาผู้ถ่ายทอดและเวลาในการปฏิบัติ ซึ่งบางครั้งอาจจะเป็นการลำบากสำหรับบุคคลอื่นหรือหน่วยงานราชการที่จะเข้าไปศึกษาโดยใช้เวลาช่วงสั้นๆ เพราะชิ้นงานที่สำเร็จของหัตถกรรมเครื่องจักสานในลักษณะที่มีความละเอียดมากจะใช้เวลามากเป็นเดือน จึงสังเกตได้ว่าผู้ทำหัตถกรรมจักสานจะเป็นผู้ที่อยู่ในท้องถิ่นนั้นชุมชนนั่นๆเอง จึงเกิดการเผยแพร่ในวงกว้างค่อนข้างยาก แม้ว่าสถานศึกษาบางแห่งมีการสอนก็จะพบว่าต้องนำผู้เชี่ยวชาญหัตถกรรมเครื่องจักสานไปสอน แสดงให้เห็นว่าถ้าจะจัดหลักสูตรหัตถกรรมเครื่องจักสานในหลักสูตรการศึกษาไม่ว่าจะเป็นประถมศึกษา มัธยมศึกษา หรือการศึกษานอกโรงเรียนสานอาชีพ ควรใช้รูปแบบการศึกษาตามอัธยาศัยจึงจะเกิดประสิทธิภาพในการเรียนการสอน ให้ผู้เรียนเข้าไปศึกษาในชุมชนนั้นๆ โดยมีการสอนแบบตัวต่อตัวโดยผู้มีความเชี่ยวชาญในชุมชนนั้น และยังเป็นการสร้างค่านิยม และกระตุ้นให้เกิดการรักวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วย
3. ผลการวิจัยพบว่าสื่อที่ใช้ในการถ่ายทอดเป็นบุคคลที่ที่มีความเชี่ยวชาญถ่ายทอดและใช้วัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับการทำหัตถกรรมเครื่องจักสานสอนและสาธิตให้ปฏิบัติ ซึ่งจะสามารถใช้เสื่อได้ผู้ถ่ายทอดต้องว่างและพร้อมที่จะสอน ดังนั้นจึงควรใช้สื่อที่เป็นเทคโนโลยีช่วยเช่น การทำวีดีโอ การทำคู่มือ การจัดบอร์ด เนื้อเกี่ยวกับกระบวนการทำหัตถกรรมเครื่องจักสานตั้งขั้นตอนการหาวัตถุดิบและการนำมาใช้ การสานลายต่างๆ การทำรูปทรงต่างๆ ให้มีความชัดเจนสามารถปฏิบัติตามได้ ซึ่งจะลดปริมาณเวลาไปนั่งเรียน และลดเวลาของผู้ถ่ายทอด
credit : https://sites.google.com/site/karcakrsancakphumipayyathiy/prayochn-thi-di-rab
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น